ถ้าคุณคิดว่าสถานบันเทิงในกรุงเทพนั้นสุดยอดแล้วคุณต้องลองมาเที่ยวชมที่งานมิวสิคเฟสติวัลอันน่าทึ่งที่จัดขึ้นเกือบทุกเดือน
ไม่ว่าคุณจะชอบเทศกาล EDM ขนาดใหญ่ หรืองานเทคโนอันเดอร์กราวด์ หรือคุณชอบการรวมตัวของผู้ชื่นชอบศิลปะ วัฒนธรรม และดนตรีเป็นประจำทุกปี กรุงเทพมหานคร (และพื้นที่ใกล้เคียง) ได้กลายเป็นศูนย์รวมของเทศกาลที่น่าประทับใจที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
ทีมงาน Pastel ได้คัดสรรงานมิวสิคเฟสติวัลชั้นนำในกรุงเทพฯ และที่อื่นๆ มาให้คุณแล้ว
Table of Contents
Toggleไปต่อที่ Pastel หลังงานเฟสติวัล
แม้ว่างานมิวสิคเฟสติวัลจะเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสประสบการณ์ความสนุกสนานและปาร์ตี้ในกรุงเทพฯ แต่เทศกาลส่วนใหญ่มักจะจบลงค่อนข้างเร็ว
ส่วนมากจะเลิกช่วงเที่ยงคืน ไฟจะสว่างขึ้นและเสียงดนตรีจะเงียบลง
แต่ที่กรุงเทพยังคงตื่นตัวกันอยู่
ที่ Pastel เองก็เช่นกัน
บาร์และร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้าของเราตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิทซอย 11 เปิดให้บริการจนถึงช่วงดึก
เรามีดีเจของเราเองพร้อมด้วยนักเพอร์คัชชันหรือนักแซ็กโซโฟนที่เปิดเพลงทุกประเภทที่คุณสามารถโยกยเายไปพร้อมกับเสียงเพลงได้
เรามีเครื่องดื่มและอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ค็อกเทลทำมือแสนอร่อย ไปจนถึงไวน์ วอดก้า วิสกี้ จิน และแชมเปญ
คุณคงจะหิวและต้องการอาหารมื้อดึกเช่นกัน
เรามีอาหารเมดิเตอร์เรเนียนเลิศรสพร้อมเสิร์ฟให้กับคุณเรียบร้อยแล้ว
S2O Songkran Bangkok
เตรียมตัวเปียกโชกสู้ความร้อนแรงของกรุงเทพได้ที่งาน S2O Songkran.
เทศกาลดนตรี EDM สามวันนี้จัดขึ้นทุกปีในช่วงสงกรานต์ซึ่งตรงกับวันที่ 13 ถึง 15 เมษายน
โดยปกติจะจัดขึ้นที่ Live Park พระราม 9 และถือเป็นปาร์ตี้ที่ใหญ่ที่สุดและเปียกโชกมากที่สุดในกรุงเทพ
S2O มีชื่อเสียงในด้านงานโปรดักชั่นที่มีคุณภาพอันน่าทึ่งและการออกแบบเวทีที่ทำให้ต้องอ้าปากค้างพร้อมกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ
เวทีนี้ทัดเทียมได้กับงานมิวสิคเฟสติวัลระดับโลกทั้งในยุโรปและอเมริกา
และบนเวทียังมีปืนฉีดน้ำขนาดยักษ์ที่เทลงมาใส่ผู้เข้าร่วมงานเทศกาลทุกคน
ในขณะที่คุณโยกย้ายไปกับเสียงเพลงอันทรงพลังและเพลิดเพลินไปกับการเล่นนำ้คุณก็อดไม่ได้ที่จะมองดูผู้คนที่สวยงามรอบตัวคุณ
นักดนตรีชื่อดังในอดีตมีศิลปินชื่อดังอย่าง Tiesto, Valentino Khan, Sebastian Ingrosso, R3hab และ Afrojack
พวกเขาได้แสดงโชว์ที่น่าทึ่งจนผู้คนอยากกลับมาดูอีกครั้ง
จึงไม่น่าแปลกใจที่ S2O ไม่ใช่แค่กระแสในประเทศไทย แต่ยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในจีน ไต้หวัน เกาหลี และฮ่องกงอีกด้วย
Neon Countdown
เป็นเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ และเป็นหนึ่งในงานปีใหม่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในเมือง เนื่องจากเทศกาลนี้ดึงดูดผู้คนหลายพันคนจากทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆมารวมกัน
ในอดีต Neon Countdown มักจะจัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ แต่ในปี 2022 และ 2023 จะจัดขึ้นที่ Wonder World Extreme Park ซึ่งเป็นสวนสนุกร้างสุดเจ๋ง ซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับนิทรรศการและงานเทศกาลต่างๆ
Wonder World Extreme Park มีขนาดใหญ่มากจึงมีพื้นที่มากมายสำหรับหลายเวทีและกิจกรรมสนุกๆมากมาย
ทำให้เทศกาลนี้สนุกสนานยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องดนตรีเท่านั้น
เทศกาลนี้มีดีเจชื่อดังมากมาย เช่น Armin Van Burren ในปี 2019, Martin Garrix, Afrojack และ Alan Walker ในปี 2022 และนำโดย Axwell, DJ Snake และ Yellow Claw ในปี 2023
นอกเหนือจากเพลงที่ยอดเยี่ยมและไลน์อัพแล้ว Neon Countdown ยังมีอาหารและเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยมมากมายเพื่อให้คุณเติมพลังสำหรับการโยกย้ายและปาร์ตี้
หนึ่งในสิ่งที่เจ๋งที่สุดในเทศกาลนี้ก็คือ คุณสามารถเพ็นท์สีนีออนบนใบหน้า ร่างกาย และเสื้อผ้าของคุณได้ฟรี
เทศกาลนี้เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเฉลิมฉลองวันส่งท้ายปีเก่าในกรุงเทพฯ
808 Festival
808 Festival เป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้คนรอคอยมากที่สุดในกรุงเทพฯ
เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2013 และกลายเป็นเทศกาลประจำในเดือนธันวาคมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อความพึงพอใจของผู้ที่ชื่นชอบดนตรี EDM
ใช่แล้ว 808 Festival เป็นอีกหนึ่งเทศกาลดนตรีที่เน้น EDM ซึ่งหมายความว่าจะรวมแนวเพลงย่อย เช่น ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์กระแสหลัก house, trance, psytrance, hardstyle และอีกมากมาย
ศิลปินชื่อดังอย่าง Armin Van Burren, Hardwell, David Guetta และ Marshmello เคยแสดงที่ 808 ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
808 มีชื่อเสียงในด้านการจัดเวทีที่น่าทึ่งและโปรดักชั่นคุณภาพสูง
มีการส่องไฟไปฟลอร์เต้นรำและสาดแสงเลเซอร์นีออนอันน่าทึ่งไปทั่วห้องโถงและภาพอื่น ๆ มานานกว่าทศวรรษ
สถานที่จัดงานเทศกาลเองก็ไม่แน่นอนนัก
มีการจัดทั่วกรุงเทพฯ เช่น ที่ Live Park พระราม 9 และ Show DC ฯลฯ แต่ตอนนี้ได้มาจัดที่ไบเทคบางนาแล้ว
เทศกาลดนตรีอันน่าทึ่งนี้ดึงดูดกลุ่มคนผู้รักในเสียงดนตรีและผู้ร่วมงานเทศกาลที่หลากหลาย ตั้งแต่แฟนเพลง EDM ตัวยงไปจนถึงผู้มาเยือนจากต่างประเทศที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เทศกาลในเอเชีย
Waterzonic
เช่นเดียวกับS2O Songkran Waterzonic เป็นอีกหนึ่งงานมิวสิคเฟสติวัลแห่งสายนำ้อันน่าตื่นเต้นที่จัดขึ้นเกือบทุกปีในกรุงเทพฯ
ต่างจาก S2O ตรงที่จะไม่จัดในช่วงสงกรานต์
โดยปกติแล้วงานเฟสติวัลจะจัดขึ้นระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน
สถานที่จัดงานยังสลับไปมาระหว่าง Live Park พระราม 9, Show DC และสนามกีฬา SCG
ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือที่ไหน Waterzonic มักจะสร้างประสบการณ์อันน่าอัศจรรย์และมีเอเนอร์จี้สูงอยู่เสมอ
ตั้งแต่ปี 2014 (ไม่นับปีที่มีการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19) Waterzonic นั้นดึงดูดผู้คนทั้งในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมามากมายนับพันคน
สิ่งที่ทำให้ Waterzonic แตกต่างจากงานมิวสิคเฟสติวัลอื่นๆ ก็คือ เป็นเทศกาลแห่งสายนำ้ที่จัดขึ้นในช่วงสิ้นสุดฤดูฝน
นี่ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ดื่มด่ำไปกับเพลง EDM อันดุเดือด
แล้วถ้าคุณไม่อยากตัวเปียกล่ะ?
เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลย
มีโซนสำหรับคนที่ไม่อยากตัวเปียกอยู่ด้วยเช่นกัน
งานมิวสิคเฟสติวัลนี้ยังมีดีเจชื่อดังอย่าง Nicky Romero, Dimitri Vegas และ Like Mike, Yellow Claw, Afrojack, Dash Berlin, Fedde Le Grand, KSHMR และศิลปินสนับสนุนอีกมากมาย
ไลน์อัพ การออกแบบเวที ปืนฉีดน้ำ และบรรยากาศโดยรวมที่ยอดเยี่ยม ทำให้ Waterzonic เป็นหนึ่งในงานมิวสิคเฟสติวัลที่ทุกคนตั้งตารอมากที่สุดในกรุงเทพฯ
Mystic Valley
Mystic Valley เป็นส่วนเสริมที่น่าทึ่งสำหรับงานมิวสิคเฟสติวัลอันยิ่งใหญ่ในประเทศไทย
แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ แต่เราได้เพิ่มสิ่งนี้ลงในลิสต์เนื่องจากคุ้มค่ากับการเดินทาง 3 ชั่วโมงจากเมืองหลวงไปยังสนามกอล์ฟที่สวยงามแห่งนี้ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาล
Mystic Valley เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งผู้เข้าร่วมไปยังเทศกาล 3 วันที่ผสมผสานดนตรี อาหาร ศิลปะ ธรรมชาติ และเทคโนโลยีอันโดดเด่นเข้าด้วยกัน
ตั้งแต่นั้นมาก็มีดีเจทั้งระดับนานาชาติและระดับท้องถิ่นมาร่วมงานเกือบ 100 คน ตลอดจนศิลปินและนักแสดง
เทศกาลนี้มักจะมีเวทีอันน่าทึ่งจำนวน 8 ถึง 10 เวทีซึ่งจะมีเล่นดนตรีประเภทต่างๆ
มีทุกสิ่งเตรียมไว้พร้อมสรรพสำหรับทุกคน
คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดนตรีแนว hardstyle, house, techno และ EDM แบบเมนสตรีมเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
ดีเจชื่อดังในอดีตที่ผ่านมาจะประกอบไปด้วย Fedde Legrand, Sander Van Doorn, และ Sven Väth
แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด
เราพูดไปรึยังนะว่างานนี้มีมากกว่าแค่ดนตรี?
Mystic Valley ยังมีโซนสำหรับนั่งชิล โซนอาหาร ตลาด หรือแม้แต่สระว่ายน้ำที่คุณสามารถผ่อนคลายหรือปาร์ตี้ได้
หากคุณชื่นชอบการผจญภัยที่ผสมผสานกับดนตรีและบรรยากาศที่สวยงาม อย่าพลาด Mystic Valley
Wonderfruit
Wonderfruit ไม่ใช่แค่งานมิวสิคเฟสติวัลเพียงเท่านั้น
จริงๆแล้ว แล้วมันไม่ใช่งานมิวสิคเฟสติวัลด้วยซ้ำ
มันมีมากกว่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่เราใส่เข้ามาในลิสต์ของเราแม้ว่างานจะไม่ได้จัดขึ้นในกรุงเทพก็ตาม
Wonderfruit จะจัดขึ้นที่พัทยาทุกกลางเดือนธันวาคม เป็นเทศกาลที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ได้มีแค่ดนตรีเพียงเท่านั้น
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับศิลปะ วัฒนธรรม แฟชั่น อาหาร กิจกรรมเวิร์คช็อป การเสวนาที่สร้างแรงบันดาลใจ และการมุ่งเน้นอย่างมากในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและมีสุขภาพที่ดี
บางคนก็บอกว่า Wonderfruit นั้นเป็นเหมือนงาน Coachella แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Wonderfruit จะจัดขึ้นเป็นเวลา 3-5 วัน และเชื่อเราเถอะ คุณจะต้องใช้วันเหล่านั้นทั้งหมดอย่างจริงจัง หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ทุกอย่างที่มีให้
เทศกาลนี้จัดขึ้นในสถานที่กลางแจ้งขนาดใหญ่ ดังนั้นคุณจะต้องเดินไปรอบๆ บ่อยครั้งเพื่อเข้าชม 7 เวที การแสดง เวิร์คช็อป แผงขายอาหาร และสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะ
ในส่วนของแนวเพลงที่คุณจะพบได้ที่ Wonderfruit นั้นมีให้เลือกมากมาย
คุณจะได้ทุกอย่างตั้งแต่แนวเพลง deep house, and techno ไปจนถึง เร็กเก้, ฮิป-ฮอป หรือแม้แต่เพลงลูกทุ่งของไทย
แตกต่างจากงานมิวสิคเฟสติวัลส่วนใหญ่ ที่นี่ไม่ได้มีแค่ศิลปินชื่อดัง
เป็นการปล่อยให้ประสาทสัมผัสได้ลองสัมผัสกับเสียง แสง รส กลิ่น และแม้แต่สัมผัสที่แตกต่างกัน
Rolling Loud
ดูเหมือนว่าเทศกาลดนตรีในประเทศไทยนั้นจะเน้นไปที่แนว techno, trance และ EDM เป็นหลัก
แต่ถ้าคุณเป็นแฟนเพลงฮิปฮอปและแร็พล่ะก็ Rolling Loud คือเทศกาลสำหรับคุณ
Rolling Loud ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 และประสบความสำเร็จอย่างมาก
ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับไลน์อัพอันยิ่งใหญ่ที่แฟน ๆ ส่วนใหญ่ใฝ่ฝันในเอเชียเท่านั้น
โดยมีศิลปินชื่อดังอย่าง Travis Scott, Cardi B และ Chris Brown เป็นหัวหอกหลักและผู้สนับสนุนศิลปินชื่อดังอย่าง Offset, Fat Joe, Central Cee และ Rick Ross จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ Rolling Loud จะกลายเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ฮอตฮิตที่สุด ประเทศไทย.
Rolling Loud ยังมีศิลปินอีกหลายสิบคนจากประเทศไทย เกาหลี เวียดนาม และส่วนอื่นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นโอกาสอันดีสำหรับเหล่าดาราดังและศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังเติบโตที่จะได้ร่วมแสดงบนเวที
คนดูเองก็ชอบเสียงเพลงและบรรยากาศของที่นี่เช่นกัน
นอกเหนือจากดนตรีอันไพเราะแล้ว Rolling Loud ยังมีกิจกรรมที่สนุกสนาน เกม อาหาร และเครื่องดื่มเพื่อให้ผู้คนได้เพลิดเพลินไปกับงาน
Rolling Loud คาดว่าจะกลับมาจัดอีกครั้งในปี 2024 และดำเนินต่อไปในปีต่อๆ ไป
คำถามที่พบบ่อย
งานมิวสิคเฟสติวัลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพคือที่ไหน?
งานมิวสิคเฟสติวัลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพคือ S2O Songkran
งาน EDM เฟสติวัลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพคือที่ไหน?
งาน EDM เฟสติวัลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพคือ 808 Festival
ติดตามข่าวสารทั่วกรุงเทพผ่านทีมงาน Pastel
ทีมงานของเราได้เลือกสรรค์สถานที่สำหรับปาร์ตี้ที่ดีที่สุดในกรุงเทพมาให้คุณแล้ว
และอย่าลืมที่จะมาพบกับเราที่สุขุมวิท ซอย 11 กรุงเทพมหานคร